ปฏิเสธไม่ได้ว่าความขี้เกียจเป็นนิสัยพื้นฐานของเราทุกคน
แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า ถ้าเราขี้เกียจแบบถูกที่ถูกเวลา มันจะช่วยให้งานเราเดินได้มากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว เพิ่มเติมคือทำให้เรามีความสุข และสนุกกับการทำงานมากขึ้นด้วย
ตามไปดูกันเลย…ที่เขาว่า “ขี้เกียจแต่ได้งาน” นั้นเป็นอย่างไร
แอบขี้เกียจอย่างไร ให้งานเดิน
1. ตื่นสายไม่ได้แปลว่าไม่ Productive
หลายคนคิดว่าการตื่นนอนแต่เช้าทุกวัน เพื่อมาเก็บแต้มกิจกรรมต่างๆ ให้มากที่สุด มันทำให้เราดู Productive มากขึ้น แต่ในความเป็นจริง การตื่นแต่เช้าตรู่ไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไปนะ ทางที่ดีเราควรให้ความสำคัญกับชั่วโมงการนอนที่เพียงพอมากกว่า เพราะการบังคับให้ตัวเองตื่นทั้งๆ ที่ยังต้องการนอน ทำให้สมองและร่างกายของเราถูกปลุกขึ้นมาแบบผิดจังหวะ ซึ่งมีผลต่อการรับรู้และอารมณ์ไปตลอดทั้งวัน
2. บางครั้งเราต้องยอมปล่อยเวลาทิ้งบ้าง
การลำดับความสำคัญ (Priority) ยังคงจำเป็นสำหรับการทำงานให้สำเร็จลุล่วง แต่บางครั้งมันก็บังคับให้เราเร่งทำงาน เสียจนลืมให้เวลากับการคิดทบทวนหาทางออกที่ดีที่สุด ฉะนั้น ไม่เป็นไรหรอกหากบางวันคุณจำเป็นต้องใช้เวลาทำงานนานกว่าปกติ หรืออาจเหม่อลอยไปบ้างจนคนอื่นมองคุณไม่ดี เพราะสิ่งที่คนเหล่านี้มองไม่เห็นคือ ความคิดมากมายที่พรั่งพรูอยู่ในสมองและความคิดของคุณ ณ ขณะนั้น
3. ใช้การเมาท์มอยให้เป็นประโยชน์
การซุบซิบ เมาท์มอยเกี่ยวกับคนอื่นในที่ทำงาน อาจมีประโยชน์อย่างเดียวคือช่วยให้เราผ่อนคลาย แต่หากลองเปลี่ยนบรรยากาศโดยหยิบประเด็นเกี่ยวกับความเห็นเรื่องงาน หรือขอคำปรึกษาคู่สนทนาเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ ที่เป็นประโยชน์มาเมาท์บ้าง จะช่วยให้วงเมาท์ของคุณทั้งสนุกและมีสาระขึ้นอีกมาก
4. เหนื่อยนักต้องพักงีบ
เมื่อสมองคุณเหนื่อยล้าเกินกว่าจะคิดงานออก เราแนะนำให้คุณพักงีบสัก 10 นาที เพื่อรีชาร์จพลังในการคิดและประมวลผล แต่ในกรณีที่ไม่สามารถงีบได้ลองใช้การทำสมาธิ 5-10 นาทีแทน หรือเติมความกระปรี้กระเปร่าด้วยกาแฟดีๆ สักแก้ว ก็ช่วยให้ทำงานยิงยาวต่อไปได้จนถึงเวลาเลิกงานเลยนะ
5. กล้าปฏิเสธแม้จะถูกว่าเป็นคนขี้เกียจ
ทำความเข้าใจเสียใหม่ Productivity ไม่ใช้การทำให้ได้มากที่สุด แต่คือการที่เราได้ประโยชน์สูงสุดจากสิ่งที่เราทำ ฉะนั้น หากมีภาระงานอื่นมาขัดขวางงานสำคัญของคุณ (ซึ่งมีมากพออยู่แล้ว) จงเรียนรู้ที่จะปฏิเสธ แล้วใช้เวลากับทำงานของตัวเองให้มากพอ
6. ให้วันหยุดเป็นวันพักผ่อนจริงๆ
“ถ้าคุณรักในสิ่งที่คุณทำ ทุกวันก็คือการพักผ่อน” ทฤษฎีนี้ฟังดูดีแต่อาจไม่จริง 100% เพราะเรา
ทุกคนต่างต้องการเวลาที่ว่างจากงานอย่างแท้จริง จงวางความกังวลที่ว่า…คุณอาจไม่ดีพอ เพราะทำงานไม่ได้มากพอไว้ซะ แล้วใช้เวลาพักผ่อนในวันหยุดให้เต็มที่ เพื่อชาร์จพลังให้พร้อมกลับมาลุยงานต่อ
7. หยุดทำงานที่คุณเกลียด
บางครั้งคนขยันไม่ได้แปลว่าทำงานดี แต่อาจหมายถึงคนที่อดทนกับการทำงานน่าเบื่อหน่าย
ได้ดีที่สุดก็ได้ ทางที่ดีหันมาเลือกงานที่คุณสนุกกับการทำมันจริงๆ จะดีกว่า แม้การปฏิเสธงานสุดแสนจะน่าเบื่อ อาจทำให้คุณดูไม่น่ารักในสายตาคนอื่นก็ตาม